พรม เฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยเพิ่มสีสันและความอบอุ่นให้กับบ้าน แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ พรมก็อาจดูเก่า หมองคล้ำ เต็มไปด้วยคราบสกปรก
ไม่ต้องกังวลไป!
วันนี้เรามี 3 ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนพรมเก่าของคุณให้กลับมาสดใสเหมือนได้พรมใหม่ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อพรมใหม่
1. ดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ
การดูดฝุ่น เป็นวิธีทำความสะอาดพรมเบื้องต้นที่สำคัญ ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นละออง เศษผม เศษอาหาร และสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจฝังอยู่ตามซอกของพรม
ตัวอย่างหัวดูดฝุ่นที่เหมาะกับการทำความสะอาดพรม
- หัวดูดฝุ่นแบบแปรง: เหมาะสำหรับการดูดฝุ่นบนพรมที่มีขนยาว
- หัวดูดฝุ่นแบบไม่มีแปรง: เหมาะสำหรับการดูดฝุ่นบนพรมที่มีขนสั้น
การดูดฝุ่นเป็นประจำจะช่วย
- ป้องกันไม่ให้คราบสกปรกฝังลึก
- ช่วยให้พรมของคุณดูใหม่อยู่เสมอ
- ยืดอายุการใช้งานของพรม
2. ทำความสะอาดคราบบนพรม
คราบบนพรม เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้พรมของคุณดูเก่าและสกปรก
วิธีทำความสะอาดคราบบนพรม ขึ้นอยู่กับประเภทของคราบ
ตัวอย่างวิธีทำความสะอาดคราบบนพรม
- คราบน้ำ: เช็ดคราบน้ำออกให้เร็วที่สุดด้วยผ้าสะอาด
- คราบน้ำมัน: โรยแป้งเด็กหรือแป้งข้าวโพดบนคราบเพื่อดูดซับน้ำมัน ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วใช้แปรงขนนุ่มขัดคราบออก
- คราบอาหาร: เช็ดคราบอาหารออกให้เร็วที่สุดด้วยผ้าสะอาด
- คราบกาแฟ: ผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเย็น 2 ถ้วยตวง เทลงบนคราบ
- คราบหมากฝรั่ง: ใช้น้ำแข็งประคบคราบหมากฝรั่งจนแข็งตัว
เคล็ดลับ
- ทดสอบน้ำยาทำความสะอาดบนพรมในบริเวณที่ไม่auffälligก่อน
- ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว
- ห้ามตากพรมในแสงแดด
3. ซักพรม
การซักพรม เป็นวิธีทำความสะอาดพรมแบบล้ำลึก
วิธีซักพรม ขึ้นอยู่กับวัสดุของพรม
ตัวอย่างวิธีซักพรม
- พรมขนสัตว์: ควรส่งซักแห้ง
- พรมโพลีเอสเตอร์: สามารถซักด้วยน้ำยาซักผ้า
- พรมไนล่อน: สามารถซักด้วยน้ำยาซักผ้า
ข้อควรระวัง
- ทดสอบน้ำยาทำความสะอาดบนพรมในบริเวณที่ไม่auffälligก่อน
- ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว
- ห้ามตากพรมในแสงแดด
การทำความสะอาดพรมอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้พรมของคุณดูใหม่อยู่เสมอ ยืดอายุการใช้งาน และช่วยให้บ้านของคุณดูสะอาด สวยงาม